พจนานุกรมธาตุ
ธาตุ Sort descending | อรรถ | ตัวอย่าง | หมวดธาตุ | |
---|---|---|---|---|
สทฺท |
กุจฺฉิเต สทฺเท ออกเสียง น่าเกลียด |
สทฺทติ |
ภู (อ) [ธป] |
|
สทฺท |
สทฺทเน 'ออกเสียง,' กล่าว, เปล่ง, ร้องเรียก |
สทฺเทติ สทฺทยติ สทฺทายติ วิสทฺเทติ สทฺโท สทฺทิโต
|
จุร (เณ ณย) [ธป] |
|
สทฺท |
อุปสัค บทหน้า อาวิกรณตฺถ ทำให้แจ่มแจ้ง |
วิสทฺเทติ, วิสทฺทยติ. |
จุร (เณ ณย) | |
สทฺท |
ปีติเลหโสสนหริเตสุ ยินดี; เลีย; เขียวสด |
สทฺทติ. สทฺทเต. |
ภู (อ) | |
สทฺท |
สทฺทกรเณ ทำเสียง, ออกเสียง, ร้องเรียก |
สทฺเทติ, สทฺทยติ. ทำทีฆะเป็น สทฺทายติ. |
จุร (เณ ณย) | |
สทฺทุ |
หริตเส เขียว, สด (?) |
ธาตุนี้ อยู่ใน ธม. (ธป. ไม่มี) คาถาที่ 39 ว่า ที่แปลไว้ข้างบน นับว่าเป็นนัยหนึ่ง โดยหมายว่า เส เป็น นิบาต เท่ากับ หริเต เส เพื่อฉันทานุรักษ์ จึงเป็น หริตเส. อีกนัยหนึ่งแยกเป็น 2 ศัพท์ คือ หริ+ตส. หริ ว่า เหลือง ดังคำ หริจนฺทน จันทน์เหลือง (ธมฺอ. 1/26. ธาตุปฺ. เล่มก่อน หน้า 109) แล หริสฺสวณฺโณ มีพรรณดุจทอง, พรรณเหลือง (สวดมนต์ โมรปริตฺต หน้า 22), ตส ว่า สะดุ้ง; ระหาย (ดู ตส ในธาตุปฺ. เล่มก่อน แลเล่มนี้). ถ้าเป็น หริต; โฆสิยา หรือ-โฆสเน ก็ว่า เขียว, สด; ป่าว, ประกาศ. |
ภู (อ) [ธป] |
|
สทฺธุ |
ปหํสเน ร่าเริง, เยาะเย้ย |
สทฺเธติ, สทฺธยติ วุทฺธํ กุจฺฉิตสทฺเทหิ พาโล. |
จุร (เณ ณย) | |
สทฺธุ |
อปาโนสฺสคฺคกิเลเท ปล่อยลมหายใจเข้า; เปียกชุ่ม |
สทฺธเต. |
ภู (อ) | |
สธุ |
สทฺทกุจฺฉิยํ* ออกเสียงน่าเกลียด |
สธติ * ส. ก็เป็นอย่างนี้ อาจจะเป็น สทฺทกุจฺฉายํ ก็ได้ เช่น กาส สทฺทกุจฺฉายํ (ศพฺทกุตฺสายำ) คือ ออกเสียงน่าเกลียด (หน้า 76) |
ภู (อ) [ธป] |
|
สธุ |
อุนฺเท ชุ่ม, ชื้น, เปียก |
สธติ |
ภู (อ) [ธป] |
|
สธุ |
ปหํสเน รื่นเริง, ร่าเริง |
สเธติ สธยติ |
จุร (เณ ณย) [ธป] |
|
สน |
สมฺภตฺติยํ คบ, สมาคม |
สนติ |
ภู (อ) [ธป] |
|
สน |
สทฺเท ทำเสียง, ออกเสียง |
สนติ สณเตว พฺรหารญฺญํ, สา รติ ปฏิภาติ มํ. |
ภู (อ), จุร (เณ ณย) | |
สน |
สมฺภตฺติภูเส คบหา, เข้าหา; ประดับ, ตกแต่ง |
สนติ คุรุํ สิสฺโส. |
ภู (อ) | |
สนิห |
ปีติยํ อิ่มใจ, ชอบใจ, รักใคร่, อาลัย |
สินิยฺหติ สิเนหโก สิเนหิโต สินิทฺโธ สิเนโห เสนฺโห
|
ทิว (ย) [ธป] |
|
สนุ |
ทานมฺหิ ให้, ถวาย |
ตน (โอ ยิร) [ธป] |
||
สนุ |
ทาเน ให้ |
สโนติ, สนุเต, |
ตน (โอ ยิร) | |
สนฺช |
สงฺคมฺหิ ติดแน่น, เกี่ยวข้อง |
สญฺชติ, สนฺชติ. |
ภู (อ) | |
สนฺต |
อามปฺวโยเค (อุสฺสนฺนกฺริยายํ) แผ่, ขยาย, กว้างขวาง, มาก, หนาแน่น, เต็ม |
สนฺเตติ สนฺตยติ |
จุร (เณ ณย) [ธป] |
|
สนฺต |
สนฺตานกฺริยายํ สืบต่อ, ต่อเนื่อง, ติดต่อ |
สนฺเตติ สนฺตยติ สนฺโต
* [ธาตุนี้] เป็น สตฺต สนฺตานกิริยายํ … สตฺโต ก็มี. |
จุร (เณ ณย) [ธป] |
|
สนฺถ |
สนฺถมฺเภ แต่ง, ร้อยกรอง, เรียบเรียง |
สนฺเถติ สนฺถยติ ธาตุนี้ เนื้อความเดียวกับ คนฺถ. |
จุร (เณ ณย) [ธป] |
|
สนฺถ |
ปติหสฺสนโมจเน ให้หัวเราะเนืองๆ; ปล่อย |
สถฺนาติ สุสุํ. |
กี (นา) | |
สนฺถ |
วธคนฺถเนสุ ฆ่า, เบียดเบียน; แต่ง, เรียบเรียง |
สนฺถติ. สนฺเถติ, สนฺถยติ. |
ภู (อ), จุร (เณ ณย) | |
สนฺท |
ปสวเน ไหลออก, ไหลไป, หลั่งไหล, วิ่งไป |
สนฺทติ อภิสนฺโท นิสฺสนฺโท สนฺทนํ สํสนฺทนํ-นา สนฺทโน
* ที่จะคำนี้เอง ที่มามีความหมายในภาษาไทยว่า เจรจากัน พูดกัน ผู้รู้มักใช้ว่า สังสันทนา เพื่อให้รูปไม่เลือน เลื่อนแต่ความ คนสามัญมักใช้ว่า สั่งสนทนา แต่ในที่สุดทั้ง สัง และ สั่ง หายไป เหลือแต่ สนทนา อย่างไรก็ดี คำสนทนานี้ ถ้าจะถือว่าเป็นบาลี ควรบัญญัติว่าเป็นบาลีกลาย ซึ่งกลายทั้งรูปทั้งความ ไม่ใช่บาลีแท้ เพราะบาลีไม่มีรูปซึ่งมีความหมายเช่นนั้น (ผู้แต่ง). |
ภู (อ) [ธป] |
|
สนฺทู |
ปสฺสเว ไหลออก, หยุด |
สนฺทติ, วิสฺสนฺทติ. แปลง ท เป็น ธ ก็ควร เช่น |
ภู (อ) |