คด, โค้ง, โกง, งอ, บิด, เป็นเกลียว
อรรถของธาตุ
โกฏิลฺเล
ตัวอย่าง
วงฺกติ วงฺโก วงฺกตปพฺพโต
- วงฺโก มีความหมาย 3 นัย:-
- วงฺโก-กา-กํ ค. คด ฯลฯ. วงฺก มีอรรถเสมอกับ วกฺก
ดังบาลีว่า "… ทิสา ภชถ วกฺกงฺคา ชาตํ สรณโต ภยํ"
วกฺก นี้ ถึง สกฺกตภาสา แล้ว เป็น วกฺร แต่ วกฺก ที่เป็นตัวธาตุ พระโบราณาจารย์มิได้แสดงไว้เลย - ส.
ศัพท์เป็นชื่อของ คด, โค้ง, โกง, งอ, บิด คือ วงฺกํ วกฺกํ กุฏิลํ ชิมฺหํ จริมฺหํ อนุชุ เหล่านี้ เป็นไตรลิงค์ - ส.
วงฺกํ กุฏิลํ ชิมฺหํ 3 นี้ ลีนตฺถปฺปกาสินี (ฏีกา ปปญฺจสูทนี) แสดงว่า วงฺกํ คดเป็นเกลียวดุจมูตรโค. กุฏิลํ เว้าดังจันทรเลขา. ชิมฺหํ โค้งดังปลายคันไถ [โคมุตฺตวงฺกํ จนฺทเลขา กุฏิลํ นงฺคลโกฏิชิมฺหํ] (ผู้เล่นภาษาพึงหาภาษาไทยที่เหมาะต่อไป) - วงฺโก น. เบ็ด.
ดังบาลีว่า "วงฺกฆสฺโตว อมฺพุโช" และ "ยถาปิ มจฺโฉ พลิสํ วงฺกํ มํเสน ฉาทิตํ"
พลิสํ วงฺกํ ในที่นี้ว่า เบ็ด ทั้ง 2 ศัพท์ พระโบราณาจารย์ห้ามไม่ให้เอา วงฺกํ ไปเป็นคุณ ซึ่งจะแปลว่า เบ็ดงอหรือคด เพราะตามธรรมดา เบ็ดต้องงออยู่เอง.
พลิสํ วงฺกํ พึงเห็นว่าเป็นปริยายแห่งกันและกัน ดุจคำว่า หตฺถินาโค (ช้างทั้ง 2 ศัพท์ ไม่ใช่เป็นคุณศัพท์ 1); สโรรุหํ ปทุมํ (บัวทั้ง 2 ศัพท์); พุทฺโธ ภควา (พระพุทธเจ้าทั้ง 2 ศัพท์) ซึ่งมีที่ใช้เสมอ - ส. - วงฺโก น. เป็นชื่อของเขา ที่เรียกว่า เขาวงก์ หรือ เขาวงกต.
ดังบาลีว่า วงฺกํ คจฺฉาม ปพฺพตํ, ทูเร วงฺกตปพฺพโต.
- วงฺโก-กา-กํ ค. คด ฯลฯ. วงฺก มีอรรถเสมอกับ วกฺก
- วงฺโก เขาวงก์ หรือ เขาวงกต คือ วงฺกปพฺพโต นั่นแล ที่มี ต แซกอยู่ มีทางวินิจฉัย 4 ทาง:-
- วงฺก+ปพฺพโต ลง ต อาคมโดยไม่มีสระอาศัย ซึ่งเพื่อต้องการให้ภาษาไพเราะโดยนิรุตตินัย จึงเป็น วงฺกตปพฺพโต. หรือ
- วงฺโก นั่นแล ลง ตา ปัจจัย เป็น วงฺกตา
ดังคำว่า เทโว เทวตา; ทิสา ทิสตา ใช้เป็นคำเดียวกันได้ ตามนัยนี้ ได้ วิ. ว่า วงฺกตา จ โส ปพฺพโต จาติ วงฺกตปพฺพโต. รัสสะ ตา เป็น ต. หรือ - วงฺกมสฺส สณฺฐานมตฺถีติ วงฺกโต. ต ปัจจัย ลงในความว่า มี วงฺกโต จ โส ปพฺพโต จาติ วงฺกตปพฺพโต. หรือ
- ปาทกฺขรปาริปูริ เพิ่มอักษรให้เต็มบาท บาทที่ว่า "ทูเร วงฺกตปพฺพโต" นั้น ที่แท้คือจะว่า "ทูเร วงฺกปพฺพโต" แต่ขาดบาทไป จึงเติมอักษร ต ลง - ส.
หมวดธาตุ
ภู (อ)
คาถา/หน้า
291
ที่มา
ธป
Comments